วันอาทิตย์ที่ 21 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553

น้ำผลไม้ปั่น

ขาย “น้ำผลไม้ปั่น” อาชีพนี้ใคร ๆ ก็ทำได้ แต่จะทำให้แปลกแหวกแนว ถูกใจวัยโจ๋ที่เป็นลูกค้ากลุ่มใหญ่นั้น ก็ต้องอินเทรนด์กันหน่อย และเพียงสูตรของเด็กมัธยมต้นที่บอกให้แม่ทำเพราะผลไม้ที่ขายเหลือ ก็กลายเป็นรายได้ที่ทำให้เจ้าตัวสนุกสนานกับการขายดีแบบเทน้ำเทท่า
ประภาศรี ปานกลิ่นพุฒ หรือ คุณตู่ ขาย “น้ำผลไม้ปั่น” มาได้ 6 เดือน อาชีพเดิมคือค้าขายผลไม้อย่างสตรอเบอรี่ ซึ่งเมื่อผลไม้เหลือขายคราวละ 40-50 กก. ก็ไม่รู้จะทำอย่างไร จนลูกสาวที่เรียนหนังสืออยู่ได้ช่วยคิดหาวิธีไม่ให้สูญเปล่า ด้วยสูตรเครื่องดื่มแนวที่วัยรุ่นกำลังชอบ กำลังฮิตจึงค่อย ๆ ทำขาย โดยสูตรทั้งหมดมาจากลูกสาว
สิ่งที่แปลกตาของร้านน้ำผลไม้ปั่นของคุณตู่คือ เมนูน้ำสตรอเบอรี่สารพัน และผลไม้สดนานาชนิดที่ถูกหั่นแบ่งเป็นชิ้น ๆ ใส่แก้วพลาสติกเตรียมไว้ และเรียงไว้เป็นระเบียบเรียบร้อย พร้อมกับเขียนป้ายบอกรายการให้ลูกค้าเห็นอย่างชัดเจน กับราคาน้ำผลไม้ปั่น 20 บาท ทุกรายการ
คุณตู่บอกว่า 20 บาท เป็นราคาที่กำลังดี ใคร ๆ บอกว่าที่อื่นขาย 25-30 บาท โดยเฉพาะเมนูน้ำผลไม้รวม ซึ่งถ้าเลือกระหว่างน้ำผลไม้ 25 บาท กับก๋วยเตี๋ยว 25 บาท คนส่วนใหญ่อาจเลือกซื้อก๋วยเตี๋ยวดีกว่า และถ้าตนเป็นลูกค้า ราคาแก้วละ 25 บาทตนก็ไม่ซื้อ เพราะแพงเกินไป เมนูเด็ดประจำร้านคุณตู่ คือ “น้ำสตรอเบอรี่ลอยแก้วปั่น”






วิธีทำ : เตรียมสตรอเบอรี่สด 10 กก. จากนั้นเตรียมน้ำเชื่อม โดยใช้น้ำ 15 ลิตร และน้ำตาลทราย 3-4 กก. ตั้งไฟให้ละลายเข้ากันดี เมื่อทำน้ำเชื่อมเสร็จแล้ว นำ สตรอเบอรี่สดใส่ลงไปในน้ำเชื่อม ถ้าจะให้รสชาติดีก็ทิ้งไว้ค้างคืน เพื่อให้รสของน้ำเชื่อมซึมเข้าไปในผลสตรอเบอรี่ หรือถ้าต้องการเร็วก็แช่ไว้ประมาณ 1-2 ชั่วโมงก็ได้
ตักสตรอเบอรี่ลอยแก้วใส่แก้วพลาสติกประมาณครึ่งแก้ว มีผลสตรอเบอรี่ประมาณ 8-9 ผล เรียงไว้เป็นระเบียบเรียบร้อย คุณตู่ให้เหตุผลที่จะต้องเตรียมและเรียงเป็นแก้ว ๆ ไว้ก่อนว่า เพราะต้องตื่นแต่เช้าเพื่อมาเตรียมของคนเดียว ดังนั้นถ้าไม่จัดใส่เป็นแก้ว ๆ เอาไว้ เวลาขายแล้วลูกค้าเข้าคราวละหลาย ๆ คน จะทำไม่ทันใจลูกค้า
เตรียมไว้ก่อนก็สะดวกดี และยังดูสวยงามน่ามองอีกต่างหาก นอกจากเมนูน้ำสตรอเบอรี่ลอยแก้วปั่นแล้ว ยังมีรายการน้ำผลไม้ปั่นอื่น ๆ ที่ต้องเตรียมและเรียงเอาไว้ ได้แก่ บลูเบอรี่ + กีวี่, สตรอเบอรี่ + บลูเบอรี่, สตรอเบอรี่ + กีวี่ แต่อีกเมนูไฮไลต์ประจำร้านที่ลูกค้าสั่งแบบไม่ขาดสายคือ “น้ำผลไม้รวม” ซึ่งประกอบด้วยผลไม้สดที่หั่นเป็นชิ้น ๆ ขนาดพอคำเตรียมไว้ ได้แก่ สับปะรด 3 ชิ้น, ฝรั่ง 2 ชิ้น, แครอท 3-4 ชิ้น, มะเขือเทศ 2-3 ผล, บีทรูท 3-4 ชิ้น และแอปเปิ้ล 1-2 ชิ้น และยังมีการขายผลไม้ปั่นแบบแยกเมนูอีก อาทิ กีวี่, ลิ้นจี่ (ใช้น้ำลิ้นจี่กระป๋อง), น้ำลิ้นจี่+สตรอเบอรี่, สับปะรด+แครอท+ แอปเปิ้ล, น้ำเสาวรส+บีทรูท, แตงโม, ส้มสายน้ำผึ้ง และมะเขือเทศราชินี
ก่อนที่จะเข้าขั้นตอนการขายนั้น การลงทุนของร้านคุณตู่นี้ จะเน้นหนักที่วัตถุดิบคือผลไม้สด อย่างผลสตรอเบอรี่ก็จะซื้อยกกล่อง ๆ ละ 10 กก. ที่ห้างแม็คโคร โดยจะใช้ได้ 3 วัน นำผลไม้ต่าง ๆ มาแช่ในตู้เย็นหรือลังน้ำแข็งเอาไว้ เพื่อให้ความสดของผลไม้คงไว้ได้นาน ซึ่งจะจ่ายตลาดคราวละ 2,500-3,000 บาท
ส่วนผลไม้อื่น ๆ อาทิ แอปเปิ้ล 1 ลัง ประมาณ 90-100 ลูก, สับปะรด คราวละ 20 ลูก, แตงโม 5-6 ลูก, ส่วนฝรั่ง, แครอท, มะเขือเทศ, บีทรูท และกีวี่ ให้ดูปริมาณตามความเหมาะสม
ถัดมาอีกวันจากวันที่คุณตู่ซื้อผลสตรอเบอรี่ จะเปลี่ยนไปซื้อของอื่นที่ย่านค้าขายแหล่งใหญ่อย่างปากคลองตลาด ซึ่งซื้อมาทีจะใช้ได้ประมาณ 3 วันเช่นกัน จ่ายตลาดคราวละ 2,000-2,500 บาท ขณะที่อุปกรณ์หลักของร้าน คือ เครื่องปั่นจะใช้ 2 เครื่อง ราคาเครื่อง 2,700 บาท
ในการขาย นอกจากผลไม้ที่ต้องเตรียมแล้ว ก็ต้องเตรียมเกลือป่น, ผงบ๊วย (ให้รสชาติกลมกล่อมชุ่มคอ) ไม่ใส่โยเกิร์ต และนมเปรี้ยว เพราะอากาศร้อน รสชาติไม่ดี และไม่ได้รสชาติของน้ำผลไม้จริง ๆ, น้ำมะนาว และน้ำแข็งวันละ 12 กั๊ก
วิธีขาย : คือ ใส่ผลไม้ที่ลูกค้าสั่งลงไปในเครื่องปั่น ใส่น้ำแข็งประมาณค่อนโถเครื่องปั่น ปรุงรสตามใจลูกค้าด้วยเกลือป่น ผงบ๊วย และน้ำมะนาว แล้วปั่นให้ละเอียด เทใส่แก้ว เท่านี้ก็เรียบร้อย ขายในราคาแก้วละ 20 บาท
คุณตู่บอกว่าถ้าขายได้ 120 ถ้วย จะใช้เงินลงทุนประมาณ 1,200-1,500 บาท ซึ่งหากใครสนใจน้ำผลไม้ปั่นสูตรลูกสาวคุณตู่ ลองไปชิมได้ที่ย่านโรงพยาบาลศิริราช ซอยวังหลัง ขายเวลา 10.00-18.00 น. โทร. 08-1118-7547
ก็เป็นเรื่องของการขาย “น้ำผลไม้ปั่น” ที่อาจจะดูธรรมดา
แต่กำไรไม่ธรรมดาเลย !!.
ที่มา : หนังสือพิมพ์เดลินิวส์ คอลัมน์ช่องทางทำกิน
ฉบับวันที่ 22 พฤศจิกายน 2549 http://www.dailynews.co.th

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น